ข่าวประชาสัมพันธ์

ชวนประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ (โลโก้) และ มาสคอต ประจำการแข่งขัน "ยกน้ำหนัก เวิลด์ คัพ" ประจำปี 2024 (พ.ศ.2567) ที่จังหวัดภูเก็ต ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 48,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน พ.ศ.2565

พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนักระดับนานาชาติ รายการ "ยกน้ำหนัก เวิลด์ คัพ" ประจำปี 2024 (พ.ศ.2567) ที่จังหวัดภูเก็ต รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทางคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬายกนำ้หนักฯ มีความเห็นตรงกันว่าอยากเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป มีส่วนร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ จึงจัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ประจำการแข่งขัน และ มาสคอต (ตัวนำโชค) ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 48,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร

สำหรับข้อกำหนดและหลักเกณฑ์การประกวดเบื้องต้น มีดังนี้ ตราสัญลักษณ์และมาสคอต ต้องเป็นภาพที่ออกแบบสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมกราฟฟิกจากคอมพิวเตอร์ สื่อกีฬายกน้ำหนัก และศิลปะหรือวัฒนธรรมของประเทศไทย หรือ จังหวัดภูเก็ต ขณะที่ มาสคอต จะต้องเป็น "เต่า" ส่วน ตราสัญลักษณ์ ต้องมีความทันสมัย สวยงามทางศิลปะ มีเอกลักษณ์และมีความเป็นสากล สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ ต้องเป็นผลงานที่ผู้ส่งเข้าประกวดออกแบบเอง ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงแบบตราสัญลักษณ์ของหน่วยงานอื่น ต้องไม่ลอกเลียนหรือละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น และผลงานต้องไม่เคยส่งเข้าประกวดที่ใดมาก่อน ข้อขัดแย้งใดๆ ที่เกิดขึ้นให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ออกแบบ โดยรางวัลชนะเลิศการออกแบบตราสัญลักษณ์และมาสคออต รับรางวัลละ 10,000 บาท, รองชนะเลิศ รางวัลละ 5,000 บาท และรางวัลชมเชย 3 รางวัลๆ ละ 3,000 บาท ทุกรางวัลจะได้รับเกียรติบัตรด้วย

ทั้งนี้ ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.tawa.or.th แนบไฟล์ดิจิตอลของผลงานต้นฉบับ พร้อมไฟล์ภาพในรูปแบบนามสกุล AI (Adobe Illustrator) และ JPG ความละเอียดไม่ต่ำกว่า 300 DPI และระบุคำอธิบายผลงาน ส่งมาทางอีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ระบุหัวเรื่องว่า "ประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ (LOGO) หรือ มาสคอต (MASCOT)" ระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน 2565ผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 1 ท่าน สามารถส่งผลงานได้หลายชิ้น แต่จะได้รับรางวัลเพียง 1 รางวัลเท่านั้น กำหนดประกาศรายชื่อผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ทาง www.tawa.or.th และเฟซบุ๊กแฟนเพจ Thailand TAWA สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ซึ่งผลการตัดสินของคณะกรรมการตัดสินถือเป็นที่สุด และผลงานที่ได้รับรางวัลให้ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ สามารถปรับแบบได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง ติดต่อสอบถาม โทร. 02-1709461, 086-3349108 ในวันและเวลาทำการ (จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 16.00 น.)

>>>> สามารถติดตามรายละเอียดได้ด้วยการคิวอาร์โค้ดด้านล่าง <<<<

สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เดินหน้าพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เตรียมจัดอบรมผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติขั้นกลาง ประจำปี 2565 วันที่ 24-28 สิงหาคม 2565 พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นการพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักในสังกัดของสโมสรสมาชิก
 
พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เตรียมจัดโครงการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติขั้นกลาง ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 24-28 สิงหาคม 2565 ณ โรงแรมบ้านไทย บูทีค และห้องจัดเลี้ยง เวอเรนด้า (VERANDA) กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการฝึกในระดับที่สูงขึ้น และนำไปพัฒนาวิธีการฝึกซ้อม และนักกีฬาในสังกัดต่อไป

 
"สมาคมฯ ต้องขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนให้มีการจัดอบรมในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะสโมสรสมาชิก เนื่องจากสโมสรต่าง ๆ มีความสำคัญกับสมาคมเป็นอย่างมากในการผลิตนักกีฬาสู่ระดับทีมชาติ ครั้งนี้น่าดีใจ ที่มีผู้สนใจสมัครเข้ารับการอบรมถึง 46 คน โดยเนื้อหาหลัก ๆ จะมีทั้งเรื่องการวางแผนการฝึกซ้อม โภชนาการสำหรับกีฬายกน้ำหนัก พื้นฐานการนวดนักกีฬา รวมถึงเรื่องสารต้องห้าม ฯลฯ ทุกคนจะได้รับความรู้เพิ่มขึ้นจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่เราเชิญมาอย่างแน่นอน " เลขาธิการสมาคมฯ กล่าว

สำหรับหัวข้อการอบรมผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติขั้นกลาง ประจำปี 2565 วันที่ 24 สิงหาคม กฎกติกา และศัพท์ความรู้สำหรับผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนัก, ทฤษฎีการฝึก/กฎการฝึกกีฬายกน้ำหนัก และ Function Anatomy, วันที่ 25 สิงหาคม การฝึกความแข็งแรง, การฝึกความอ่อนตัว และการวางแผนการฝึกซ้อมระยะยาว 
วันที่ 26 สิงหาคม การวางแผนการฝึกซ้อม รายครั้ง, การวางแผนการฝึกซ้อม รายสัปดาห์, การวางแผนการฝึกซ้อม รายปี และการวางแผนการฝึกซ้อมและเป้าหมายการเรียกเหล็ก, วันที่ 27 สิงหาคม การเขียนตารางการฝึกซ้อม และการวางแผนเตรียมการแข่งขัน, โภชนาการสำหรับกีฬายกน้ำหนัก และ พื้นฐานการนวดนักกีฬา และวันที่ 28 สิงหาคม Doping in Sport สำหรับกีฬายกน้ำหนัก และจิตวิทยาการกีฬาสำหรับกีฬายกน้ำหนัก 

สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เดินหน้าเตรียมจัดศึกเวิลด์คัพ 2024 ล่าสุดประชุมร่วมกับผู้แทนจังหวัดภูเก็ต เจ้าภาพร่วมเรียบร้อยแล้ว ด้าน "บิ๊กปรัช" ปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมฯ เชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตว่าจะเป็นเจ้าภาพได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากมีประสบการณ์จัดการแข่งขันในระดับนานาชาติมาหลายครั้ง

นายปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ฯ พลอากาศโท วัฒนชัย เจริญรัตน์  อุปนายกฯ และประธานฝ่ายเทคนิค นายสมโภชน์ ยิ้มพลอย อุปนายกฯ และ นาวาเอกเพชรเกษม รตาภรณ์ กรรมการบริหารและเลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขัน ร่วมประชุมกับนายพิเชษฐ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อเตรียมงานเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนักเวิลด์คัพ  (World Cup2024)  ระหว่างวันที่ 2-11 เมษายน 2567 โดยวาระในการประชุมครั้งนี้ เป็นการหารือและขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่ประจำฝ่ายต่างๆ อาทิ สถานที่จัดการแข่งขัน ที่พัก อาหาร ระบบขนส่ง ฯลฯ

นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ กล่าวต่อว่า การแข่งขันยกน้ำหนักเวิลด์คัพ 2024 ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นรายการสำคัญ เพราะเป็นแมตช์บังคับ และเป็นสนามสุดท้ายที่นักกีฬาจากทั่วโลก จะต้องเดินทางมาร่วมการแข่งขัน เพื่อควอลิฟายสู่โอลิมปิก ปารีส 2024 ซึ่งสมาคมฯ เชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตว่าจะเป็นเจ้าภาพได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากมีประสบการณ์จัดการแข่งขันในระดับนานาชาติมาหลายครั้ง

อนึ่ง จังหวัดภูเก็ต ได้รับการโหวตให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันยกน้ำหนักเวิลด์คัพ 2024 เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กำหนดค่าลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันเป็นจำนวนเงิน 700,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 25 ล้านบาท)  โดยได้รับการโหวตสูงสุด 15 จาก 22 เสียง เหนือคู่แข่งอีก 2 เมืองที่เสนอตัว อย่างกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และ เมืองโกยาง ประเทศเกาหลีใต้