ข่าวประชาสัมพันธ์

อนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลก มีคำสั่งรับอุทธรณ์คำร้องของ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ตามหมายเลข CAS 2020/A/6981 แล้ว ปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมฯ พร้อมที่จะต่อสู้ เพื่อนำความเป็นธรรมกลับคืนมาให้ได้ หลังถูกคณะกรรมการอิสระ ของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ออกบทลงโทษ ทั้งบุคลากร และ นักกีฬาของไทย

อนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลก มีคำสั่งรับอุทธรณ์คำร้องของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ตามหมายเลข CAS 2020/A/6981 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา แล้ว

นายปรัชญา กีรตินันท์ นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 ที่ผ่านมาว่า นับเป็นข่าวดีที่อนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลก มีคำสั่งรับอุทธรณ์คำร้องของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่ถูกคณะกรรมการอิสระ ของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ออกบทลงโทษ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในส่วนของบุคลากรที่ห้ามยุ่งเกี่ยวกับสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ 3 ปี และห้ามนักกีฬา อายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงรุ่นทั่วไป ลงแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ เป็นเวลา 5 เดือน และ 11 เดือนตามลำดับ นับตั้งแต่รายการแรกที่จะจัดในอนาคต แล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด แม้จะลำบากเพียงใด สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะต่อสู้นำความเป็นธรรมกลับคืนมา ให้ได้

นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า การที่คณะกรรมการบริหารสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ มีมติให้ นายทามาส อาจาน ออกจากตำแหน่งประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาตินั้น ถือเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งที่เรามีความชัดเจนที่จะได้รับความเป็นธรรมจากอนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลก

”สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งคณะทำงานที่มีประสบการณ์ นำโดย นายนิพนธ์ ลิ่มบุญสืบสาย มาเป็นประธาน ซึ่งมีประสบการณ์ในกีฬายกน้ำหนักระดับโลกมากว่า 10 ปี นอกจากนี้ยังเป็นคณะกรรมการผู้ฝึกสอนและวิจัยของสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติมา 3 สมัย พร้อมทั้งยังมี ดร.สิริลักษณ์ ทัดมั่น มาทำงานร่วมกัน เพื่อต่อสู้ในครั้งนี้ คณะกรรมการทุก ๆ ท่านมีขวัญกำลังใจดีเยี่ยม มีความเป็นเอกภาพในการทำงาน จึงเชื่อมั่นได้ว่าเราจะได้รับความเป็นธรรมกลับคืนมาอย่างแน่นอน” นายปรัชญา กล่าวในตอนท้าย

ทามาส อาจาน ลาออกจากประธานยกน้ำหนักโลก แล้ว

คณะกรรมการบริหารสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ รับทราบ การลาออกจากตำแหน่งประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ของ ทามาส อาจาน ในระหว่างการประชุมออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา หลัง อาจาน ทำงานในวงการกีฬายกน้ำหนักโลก มานานถึง 43 ปี
ก่อนหน้านี้ อาจาน อยู่ระหว่างการพักงานชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมสืบสวนอิสระ นำโดย ริชาร์ด แม็กลาเรน ทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีคอรัปชั่น ซึ่งถูกเปิดโปงในรายการโทรทัศน์ของเยอรมนี โดยการลาออกมีขึ้นหลังจากบอร์ดบริหารสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ มีมติขยายเวลารักษาการณ์ตำแหน่งประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ของ อูร์ซูลา พาพันเดีย จากกลางเดือน เม.ย.นี้ ไปจนถึงกลางเดือน มิ.ย. เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมสืบสวนมีเวลาตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการคัดค้านจาก อาจาน ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ มาตลอด

“แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย โพสต์ พ่อแม่ลูก น้าทั้ง 2 ปลอดภัย ก็พอแล้ว หลังเจอเรื่องช็อค บ้านพักที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งสร้างให้พ่อและแม่ พร้อมทั้ง ๆ หลานพักอาศัย เกิดเพลิงไหม้ เมื่อกลางดึกคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โชคดีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งดับไฟ ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ส่วนคนในครอบครัวไม่มีใครบาดเจ็บ คาดสาเหตุเพลิงไหม้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายยังประเมินมูลค่าไม่ได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 15 บ้านเขวา ตำบลกุดเค้า อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนเเก่น ซึ่งเป็นบ้านของ “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย เมื่อกลางดึกวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยได้เร่งนำกำลังเข้าตรวจสอบพร้อมเข้าดับไฟทันทีหลังได้รับแจ้ง เมื่อเดินไปถึง พบบ้านดังกล่าว มีลักษณะ 2 ชั้น และชั้นล่างหน้าบ้านเป็นร้านขายของชำ กำลังเกิดเพลิงไหม้ โดยหลังเวลาผ่านไป 30 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ขณะที่ผู้พักอาศัย ทั้ง นายคำปุ่น ศิริแก้ว, นางอมรรัตน์ ศิริแก้ว พ่อและแม่ของ “แต้ว” รวมถึงหลานๆ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายใด ๆ

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ นายคำปุ่น เปิดเผยว่า หลังจากปิดร้านตนและภรรยา รวมถึงหลาน ๆ ก็เข้าไปพักผ่อนตามปกติ แต่หลังจากได้ยินเสียงระเบิดจากคัทเอาท์ภายในบ้านดังขึ้น ได้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตนและภรรยา รวมถึงหลาน ๆ รีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาก่อน

ขณะที่ พ.ต.อ.ยุทธการ โสเมือง ผกก.สภ.มัญจาคีรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเจ้าของบ้านทราบว่า ขณะที่ทุกคนพักผ่อนดูทีวีในบ้าน ก็เห็นไฟลุกไหม้จากชั้นบน จึงรีบพาหลานออกมาอยู่นอกบ้าน และแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและดับเพลิง ทว่าไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง สาเหตุการเกิดเพลิงไหม้นั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แท้จริง จะประสานเจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น มาตรวจที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินมูลค่าได้

ด้าน พิมศิริ ศิริแก้ว ซึ่งแม้จะไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่เมื่อได้ทราบเรื่อง เจ้าตัวรีบติดต่อกลับไปยังสมาชิกครอบครัวที่บ้านด้วยความเป็นห่วงทันที ก่อนในช่วงกลางดึกคืนเดียวกัน เจ้าตัวจะโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คตัวเองโดยระบุว่า “พ่อแม่ลูก น้าทั้ง 2 ปลอดภัย ก็พอแล้ว”

นอกจากนี้ พิมศิริ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้พูดคุยกับพ่อและแม่แล้ว รวมถึงหลานชาย ที่เป็นลูกของพี่ชาย ทุกคนปลอดภัยดี ตนกำลังขอหนังสืออนุญาติออกนอกพื้นที่ จากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อกลับไปดูแลทุกคนที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนพ่อแม่และหลาน ตอนนี้ ต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านย่า ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันก่อน